รถกระบะไฟฟ้า หมดห่วงเรื่องน้ำมัน พร้อมความคุ้มค่าที่เหนือกว่า
สบายรถไฟฟ้า (Sabai eBike) ชวนไปทำความรู้จักรถกระบะไฟฟ้า (EV Pick-up Truck) ทางเลือกใหม่ของการขนส่งสินค้า หรือเครื่องมืออุปกรณ์ สำหรับธุรกิจที่ขนส่งสิ่งของชิ้นไม่ใหญ่และกำลังมองหาความคุ้มค่า มีลักษณะเป็นรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดเล็ก โครงสร้างแข็งแรง มีกระบะหลังกว้างขวางสามารถบรรทุกสิ่งของได้อย่างอเนกประสงค์ พร้อมขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ไม่มีเสียงดังรบกวน หรือปล่อยควันไอเสียออกมาเหมือนรถกระบะทั่วไป ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องขนของในพื้นที่จำกัด พื้นที่แคบ หรือขนส่งของไปในระยะทางไม่ไกลมาก และไม่จำเป็นต้องออกถนนใหญ่
จุดเด่นและจุดแข็งของรถกระบะไฟฟ้า
จุดเด่นของรถกระบะไฟฟ้ามีอยู่หลายด้าน อย่างแรกเลยคือตัวรถมีขนาดเล็กกะทัดรัด มีวงเลี้ยวที่ไม่กว้าง และมีระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ควบคุมรถง่าย ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว จะเลี้ยวโค้งหรือเข้าไปในซอยแคบก็สบาย ใช้ขนส่งผลผลิตจากสวนหรือฟาร์มก็สะดวก หรือจะใช้ในพื้นที่จำกัดอย่างโกดัง โรงงาน รีสอร์ต และในหมู่บ้านก็ตอบโจทย์
ถึงตัวรถจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่มาพร้อมโครงสร้างที่แข็งแรงและสมดุล ออกแบบมาสำหรับบรรทุกสิ่งของโดยเฉพาะ ตัวรถมีศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้รถเกาะถนนได้ดี ไม่โคลงเคลงหรือเสียสมดุลง่ายเมื่อบรรทุกของหนัก ซึ่งบางรุ่นสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 1,000 กิโลกรัม
รถกระบะไฟฟ้ายังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอีกด้วย เพราะไม่ได้มีการใช้เครื่องยนต์สันดาป ไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ที่ก่อให้เกิดควันอันเป็นมลพิษทางอากาศ จึงเหมาะมากกับการใช้ในเขตชุมชน ในเขตที่พักอาศัย หรือในบริเวณที่เลี้ยงสัตว์และทำการเกษตร
เปรียบเทียบต้นทุนพลังงานไฟฟ้า VS น้ำมัน
ค่าพลังงานเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบของรถกระบะไฟฟ้า โดยรถกระบะไฟฟ้าสามารถชาร์จพลังงานเข้าแบตเตอรี่ด้วยไฟบ้านได้เลย จึงมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับรถกระบะที่ต้องไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้มาก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ส่งผลให้ต้นทุนของการขนส่งสินค้าถูกลงนั่นเอง
รถกระบะไฟฟ้า
- ค่าไฟฟ้าที่บ้าน สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ อยู่ที่ 2.80-4.20 บาท/kWh
- อัตราสิ้นเปลืองโดยประมาณ 5-7 กม./kWh (อิงจาก 15-20 kWh/100 กม.)
- ต้นทุนโดยประมาณต่อกิโลเมตร อยู่ที่ประมาณ 0.40-0.84 บาท
รถกระบะดีเซล
- ราคาน้ำมันดีเซล 31.00 บาท/ลิตร (ณ วันที่ 5 พ.ย. 2568)
- อัตราสิ้นเปลือง 12 กม./ลิตร
- ต้นทุนโดยประมาณต่อกิโลเมตร อยู่ที่ประมาณ 2.58 บาท
รถกระบะไฟฟ้า ดูแลรักษาง่ายกว่าที่คิด
เนื่องจากรถกระบะทั่วไปมีตัวรถขนาดใหญ่และมีสมรรถนะในการขับเคลื่อนแรงกว่ารถกระบะไฟฟ้า ทำให้มีชิ้นส่วนอะไหล่เยอะกว่า รวมถึงเครื่องยนต์สันดาปและการใช้น้ำมันด้วย ผู้ขับจึงต้องมีความรู้ในการดูแลรถอย่างถูกต้องและต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ หากมีส่วนไหนเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมก็จะค่อนข้างสูง ในขณะเดียวกัน รถกระบะไฟฟ้าเป็นรถที่มีแค่มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญ เน้นการดูแลรักษา 2 ชิ้นส่วนนี้เป็นหลัก และก็มีการดูแลไม่ยุ่งยากด้วย
- เช็กปริมาณแบตเตอรี่ ไม่ควรปล่อยให้ประจุเหลือต่ำกว่า 30% หรือหมดเกลี้ยง
- เตรียมพร้อมก่อนใช้งาน ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันแบตหมดกลางทาง
- ชาร์จในระยะเวลาที่กำหนด ชาร์จไฟเพียง 6-8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน
- จอดรถในที่ที่เหมาะสม ควรจอดรถหรือชาร์จแบตเตอรี่ในที่ร่ม และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
- ตรวจสอบความพร้อมเสมอ หมั่นตรวจเช็กลมยาง สายไฟ และการทำงานของเบรกก่อนใช้งาน
- ห้ามลุยน้ำสูง ระวังอย่าขับรถลุยน้ำท่วมที่สูงกว่าจุดที่วางเท้า
- บรรทุกของอย่างเหมาะสม ไม่บรรทุกสิ่งของเกินน้ำหนักที่กำหนด และวางของอย่างสมดุล
- ชาร์จสม่ำเสมอเมื่อจอดนาน หากมีการใช้งานน้อย ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง
รถกระบะไฟฟ้าเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) และร้านค้า เหมาะสำหรับใช้ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค หรือวัตถุดิบเพื่อส่งของให้ลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง หรือระหว่างร้านสาขา
- เกษตรกรและผู้ที่ทำงานในฟาร์ม/ไร่ เหมาะสำหรับใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร, ปุ๋ย, หรืออุปกรณ์เครื่องมือภายในบริเวณฟาร์ม/ไร่
- ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชน เหมาะสำหรับใช้ในการจัดส่งพัสดุ สินค้า หรืออาหารที่มีปริมาณไม่มาก ในซอยแคบที่รถใหญ่เข้าถึงยาก
- การใช้งานภายในพื้นที่จำกัด เหมาะสำหรับใช้ในบริเวณโรงงาน, โกดังสินค้า, รีสอร์ต, โรงแรม หรือฟาร์ม/ไร่
- บุคคลทั่วไป เหมาะสำหรับใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวันเพื่อซื้อของ หรือขนย้ายของใช้ส่วนตัว เนื่องจากรถมีขนาดกะทัดรัดและขับง่าย
สรุป
รถกระบะไฟฟ้า ไม่เพียงแต่มอบความคุ้มค่าในระยะยาวให้เท่านั้น ยังมอบความสะดวกสบายให้อีกด้วย ทั้งในเรื่องของการขับขี่ที่ง่ายดาย และการชาร์จพลังงานที่ทำได้ทุกเวลาที่บ้าน ไม่ต้องยุ่งยากขับออกไปเติมน้ำมันไกล ๆ หากใครกำลังมองหายานพาหนะสำหรับบรรทุกสิ่งของขนาดเล็ก-ปานกลาง เน้นการขนส่งในระยะทางใกล้ ๆ และช่วยประหยัดต้นทุนค่าขนส่งในระยะยาว รถกระบะไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
รถไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? ซื้อรถกระบะไฟฟ้าที่ไหนดี? ต้อง สบายรถไฟฟ้า (Sabai eBike) ศูนย์รวมรถไฟฟ้าครบวงจร มีรถไฟฟ้าให้เลือกกว่า 150 คัน มาพร้อมการรับประกันแบบจัดเต็ม ครอบคลุม 50 สาขาทั่วประเทศไทย เป็นทั้งผู้ผลิตรถไฟฟ้า ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย รวมถึงเป็นศูนย์ซ่อมในตัว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
- โทรศัพท์ 092-333-0590
- LINE @sabai-ebike (คลิกเพื่อแอดไลน์)
- เลือกชมสินค้า : รวมสินค้าจากสบายรถไฟฟ้า
- เช็กสาขาใกล้บ้าน : ศูนย์บริการรถไฟฟ้าสบาย
