แชร์

สามล้อเพื่อการเกษตร ดีไหม? เลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน

อัพเดทล่าสุด: 6 ต.ค. 2025
10 ผู้เข้าชม

รถไฟฟ้าสามล้อเพื่อการเกษตร (Electric Farm Tricycle) คือรถสามล้อไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลืองานไร่ งานสวน หรืองานเกษตรโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้ว จากฟาร์มไปยังปลายทาง หรือการขนส่งเครื่องมือและอุปกรณ์ทำสวน นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์อีกด้วย ซึ่งบางคนอาจจะเรียกว่ารถสามล้อบรรทุก, รถกระบะไฟฟ้า หรือรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดเล็กก็ได้

ลักษณะเด่นของสามล้อเพื่อการเกษตร คือ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่, ขนาดของตัวรถจะเล็กกว่ารถกระบะทั่วไป, กระบะด้านหลังจะมีพื้นที่กว้าง ทำให้สามารถบรรทุกของได้เยอะ, ยางล้อรถสามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ดี และจะมีที่นั่งเพียง 1 ที่สำหรับคนขับ แต่ในบางรุ่นก็อาจจะมีการติดตั้งเบาะเสริมบริเวณกระบะท้ายรถได้ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด จึงทำให้รถสามล้อบรรทุกนี้ สามารถขับเคลื่อนในพื้นที่แคบได้อย่างคล่องแคล่ว เลี้ยวโค้งสะดวก และไม่มีปัญหาเรื่องการขับบนพื้นที่ขรุขระ จึงช่วยทุ่นแรง เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี

ทำไมสามล้อเพื่อการเกษตร จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ?

รถสามล้อเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะรุ่นรถไฟฟ้า กำลังเป็นตัวเลือกที่มาแรงและได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มเกษตรกรยุคใหม่ เพราะคุณสมบัติที่ออกแบบมานั้นตอบโจทย์งานไร่นาได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถลดภาระและประหยัดเวลาทำงานในไร่ได้มาก นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อีกด้วย และสามล้อเพื่อการเกษตรจะมีข้อดีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ไปติดตามกันต่อได้เลย

มีความคล่องตัวสูงในพื้นที่จำกัด

รถไฟฟ้าสามล้อจะมีขนาดกะทัดรัดและวงเลี้ยวแคบ ทำให้สามารถเข้าออกแปลงเพาะปลูก หรือพื้นที่เก็บเกี่ยวที่มีทางเดินจำกัดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

โครงสร้างแข็งแรง บรรทุกของได้เยอะ

ตัวรถถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างแข็งแกร่ง สามารถรับน้ำหนักการบรรทุกผลผลิตและเครื่องมือได้ดี รวมถึงรองรับการขับขี่บนพื้นผิวขรุขระในไร่นาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค่าใช้จ่ายไม่สูง

พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่มีราคาถูกกว่าการเติมน้ำมัน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก็น้อยกว่า เพราะมีชิ้นส่วนน้อยและราคาไม่สูง

ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

รถสามล้อไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ทำให้ควบคุมง่าย และการออกแบบให้มี 3 ล้อ ก็ช่วยให้รถมีความมั่นคงและสมดุลสูง โดยเฉพาะเมื่อบรรทุกของหนักหรือขับบนทางที่ไม่เรียบ ทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น

มีฟังก์ชันเสริม เพิ่มความสะดวกสบาย

รถบางรุ่นมาพร้อมคุณสมบัติเสริม เช่น ไฟหน้าส่องสว่าง, หน้าจอดิจิทัลความละเอียดสูง, กระบะที่เปิดฝาได้รอบทิศ, โช้กลดแรงสั่นสะเทือน หรือกระบะหลังที่สามารถเทได้แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องขนของลงเองให้เหนื่อย เป็นต้น จึงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี

6 ข้อแนะนำในการเลือกซื้อรถบรรทุกสามล้อ มาใช้ในงานเกษตร

1. ลักษณะการใช้งาน

ก่อนตัดสินใจซื้อรถบรรทุกสามล้อมาใช้งาน ควรพิจารณาว่าคุณจะนำรถไปใช้ในงานประเภทไหนเป็นหลัก เช่น หากเน้นแค่การขนย้ายผลผลิตเบา ๆ หรืออุปกรณ์ทำสวนที่ไม่หนักมาก มอเตอร์ขนาดกลาง 650W - 1,000W ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องขนของหนัก ขนส่งเป็นระยะทางไกล หรือใช้ทุกวัน ก็ควรเลือกรุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่และกำลังมอเตอร์สูง เพื่อให้รถตอบโจทย์การทำงานที่หนักและต่อเนื่องได้ดี

2. ขนาดและคุณสมบัติของกระบะ

ประเมินปริมาณและลักษณะของสิ่งที่ต้องบรรทุกเป็นประจำ เพื่อเลือกรถที่มีขนาดกระบะที่เหมาะสม หากเป็นการขนย้ายผลผลิตที่มีน้ำหนักมากหรือมีขนาดใหญ่ ควรเลือกรถที่มีกระบะขนาดกว้างและโครงสร้างแข็งแรงที่รองรับน้ำหนักได้สูงตั้งแต่หลายร้อยกิโลกรัมขึ้นไป นอกจากนี้ ยังพิจารณาได้จากคุณสมบัติเสริม อย่างระบบยกดัมพ์ หรือการเปิดฝาทั้งสามด้าน เพื่อความสะดวกในการขนถ่ายได้

3. สภาพพื้นผิวในบริเวณที่ใช้งาน

สภาพถนนในพื้นที่เกษตรกรรมมีความสำคัญต่อการเลือกรถเช่นกัน หากคุณต้องขับบนทางดิน ทางขรุขระ หรือทางลาดชันเป็นประจำ ควรเลือกรุ่นที่มีกำลังมอเตอร์สูง มีระบบกันสะเทือนที่ทนทาน และอาจต้องมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น เกียร์ทดกำลัง หรือยางที่เหมาะสำหรับวิ่งในทุกสภาพพื้นผิว เพื่อให้รถสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในทุกการขับขี่

4. สเปกของตัวรถ

สำหรับสเปกของตัวรถ แนะนำให้พิจารณาเรื่องมอเตอร์และแบตเตอรี่เป็นหลัก ถ้าต้องการรถที่วิ่งได้ไกลและไม่ต้องชาร์จบ่อย ควรเลือกรุ่นแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง เช่น 50V หรือ 72V ขึ้นไป เพื่อให้ครอบคลุมระยะทางในการทำงานทั้งวัน ส่วนกำลังของมอเตอร์จะส่งผลต่อความเร็วและความสามารถในการรับน้ำหนัก ดังนั้น หากต้องลุยงานหนักก็ควรเลือกรุ่นที่มีกำลังมอเตอร์ 1,000W ถึง 1,500W นั่นเอง

5. งบประมาณที่มี

ราคาของรถสามล้อเพื่อการเกษตร จะแตกต่างกันไปตามกำลังมอเตอร์ ความจุแบตเตอรี่ และคุณสมบัติเสริมต่าง ๆ ควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมกับผลตอบแทนที่จะได้รับ ยิ่งมูลค่าของผลตอบแทนสูง ก็สามารถลงทุนในรถรุ่นท็อปได้ แต่ถ้าหากงบประมาณมีจำกัด อาจเลือกรุ่นที่มีสเปกพื้นฐานที่เพียงพอต่อการใช้งานแทน

6. การรับประกันสินค้า

แบตเตอรี่และมอเตอร์เป็นอะไหล่ที่มีอายุการใช้งาน และสามารถเสื่อมสภาพได้ หากได้รับการดูแลที่ไม่ดีพอ ดังนั้น เพื่อความคุ้มค่า ควรสอบถามกับผู้จัดจำหน่ายรถไฟฟ้าให้มั่นใจก่อนว่ามีการรับประกันหรือไม่ ถ้ามี รับประกันเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5 ปี และถ้าเป็นไปได้ ควรซื้อกับร้านขายรถไฟฟ้าที่มีศูนย์และช่างซ่อมในตัว เพื่อให้มั่นใจว่ารถของคุณจะได้รับการดูแลซ่อมแซมทันที เมื่อมีปัญหา

สามล้อเพื่อการเกษตร รุ่นยอดฮิต จากสบายรถไฟฟ้า

สบายรถไฟฟ้า (Sabai eBike) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศไทย มีศูนย์ซ่อมในตัว พร้อมลานกว้างสำหรับทดลองขับทั้ง 50 สาขาทั่วประเทศไทย (เช็กสาขาใกล้บ้านได้ที่นี่) มีรถไฟฟ้าให้เลือกครบทุกประเภท ทั้งรถไฟฟ้าสามล้อ, สามล้อเพื่อการเกษตร, รถบรรทุกไฟฟ้าขนาดเล็ก, รถไฟฟ้า 2 ล้อ, รถกอล์ฟไฟฟ้า, รถไฟฟ้าผู้สูงอายุ ฯลฯ มาพร้อมการรับประกันแบบจัดเต็ม! ไม่ว่าจะเป็นรับประกันมอเตอร์ 5 ปี, รับประกันแบตเตอรี่ 1 ปี, รับประกันระบบไฟ 1 ปี, รับประกันโครงรถตลอดอายุการใช้งาน และฟรี! ค่าแรงช่างตลอดอายุการใช้งาน

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น KP-160

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น KP-160 ราคา 42,900 บาท เหมาะสำหรับคนที่อยากได้รถมาใช้งานเบา ๆ บรรทุกของไม่หนักมาก หรือใช้ขนของทั่วไปในชีวิตประจำวัน และขับขี่ในระยะทางที่ไม่ไกลมาก รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ 60V32AH มีกำลังมอเตอร์ 1,000W รองรับน้ำหนักได้ 600 กิโลกรัมขึ้นไป พร้อมระบบเบรกมือและเบรกเท้า (Drum Brake) สามารถปรับเปลี่ยนระบบถอยหลังด้วยสวิตช์

คลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น KP-180

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น KP-180 ราคา 54,900 บาท กระบะหลังกว้างพิเศษ รองรับน้ำหนักได้ 1,000 กิโลกรัม มีระบบเทหลังอัตโนมัติ ฝากระบะเปิดได้ 3 ด้าน สามารถบรรทุกของได้อย่างอเนกประสงค์ แบตเตอรี่ความจุสูง 72V50AH กำลังมอเตอร์ 1,200W ขนาดยาง 4.00-19 เกาะพื้นผิวได้ดีเยี่ยม

คลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น ZJ150

รถกระบะไฟฟ้าบรรทุกของขนาดใหญ่รุ่น ZJ150 ราคา 49,900 บาท ขนาดของตัวรถ 113 x 288 x 135 ซม. รองรับงานขนส่งสินค้าในระยะใกล้ถึงปานกลาง สามารถใช้ขนส่งผลผลิตได้หลายครั้งในหนึ่งวัน กระบะกว้างขวาง รองรับน้ำหนักได้ 800 กิโลกรัม ดัมพ์ด้วยมือ ความจุแบตเตอรี่ 60V45AH ส่วนกำลังมอเตอร์ 1,000W วิ่งได้ไกลต่อเนื่อง 60 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง

คลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น ZJ150H

รถกระบะไฟฟ้า รุ่น ZJ150H ยกดัมพ์ไฮโดรลิก ราคา 66,900 บาท งานหนักแค่ไหนก็เอาอยู่ แบตอึด ขับง่าย ขนของสะดวก รองรับน้ำหนักได้ 600 กิโลกรัม เหมาะกับเกษตรกรที่ต้องขนส่งผลผลิตจำนวนมากและหลายรอบต่อวัน รุ่นนี้มาพร้อมกำลังมอเตอร์ 1,500W แบตเตอรี่ 60V58AH วิ่งได้ไกลต่อเนื่อง 50 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 35-45 กิโลเมตร/ชั่วโมง

คลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า

สรุป

หากใครกำลังมองหารถกระบะไฟฟ้า มาเพิ่มความสะดวกในงานเกษตร สามารถเลือกซื้อได้จากลิสต์ที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่ารถสามล้อเพื่อการเกษตรรุ่นไหน จะเหมาะกับการใช้งานของตนเองมากที่สุด สามารถสอบถามแอดมิน เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ LINE @sabai-ebike (คลิกเพื่อแอดไลน์) หรือ โทรศัพท์ 092-333-0590 พร้อมให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.


บทความที่เกี่ยวข้อง
แนะนำวิธีใช้รถสามล้อบรรทุก เพิ่มประสิทธิภาพให้งานเกษตร
รถไฟฟ้าสามล้อเพื่อการเกษตร หรือรถสามล้อบรรทุก เป็นอีกตัวช่วยที่จำเป็นสำหรับเกษตรกร ทั้งช่วยทุ่นแรง ขนผลผลิตสะดวก งานเสร็จเร็วขึ้น และยังคุ้มค่าในระยะยาวด้วย
1 ต.ค. 2025
คู่มือการใช้งาน "รถไฟฟ้าสามล้อบรรทุก" พร้อมวิธีดูแลอย่างถูกต้อง
อัปเดตวิธีใช้งานและวิธีดูแลรักษา รถไฟฟ้าสามล้อบรรทุก อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้รถทำงานเต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานนานยิ่งขึ้น
1 ต.ค. 2025
รถกอล์ฟไฟฟ้าราคาเท่าไหร่
ชวนทำความรู้จักรถกอล์ฟไฟฟ้า หรือ รถไฟฟ้า 4 ล้อ คืออะไร พร้อมข้อดี ข้อเสีย และคลายข้อสงสัยรถกอล์ฟไฟฟ้า ราคาเท่าไหร่ คุ้มค่าไหมที่จะซื้อมาใช้งาน
1 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy